Tuesday, November 26, 2019

WATCH STRAP CROCODILE LEATHER NEW COLOR BROWN MEN GOOD QUALITY


Watch Strap made from Crocodile Leather 









นิยายรัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ เล่ม1, เล่ม2, เล่ม3, เล่ม 4, เล่ม5, เล่ม6, เล่ม7 (เล่มจบ)



นิยายรัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่
7 เล่ม จบ
ผู้เขียน  เมิ่งซีสือ
ร้านนายอินทร์ออนไลน์จัดจำหน่าย
www.naiin.com












รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ เล่ม 7 - เล่มจบ

'ลัทธิบัวขาวถูกขุดรากถอนโคน กล่าวได้ว่าเก้าในสิบส่วนเป็นผลงานของถังฟั่น
เขาจะเติบโตในหน้าที่การงาน ขั้นตำแหน่งเลื่อนขึ้นพรวดพราดก็หาใช่เรื่องน่าแปลกใจ
บัดนี้ถังฟั่น ถังรุ่นชิง ก็ได้กลายเป็น ถังเก๋อเหล่ามหาเสนาบดีแห่งสภาขุนนางแล้ว!ช่วงเวลานี้บ้านเมืองนับว่าสงบสุข หากไม่ใช่กับในราชสำนักและวังหลวง กลุ่มอำนาจวั่นยังคงไม่วางมือจากภารกิจเปลี่ยนตัวรัชทายาท  ทั้งยิ่งต้องเร่งรัดลงมือ เพราะองค์จักรพรรดิพระวรกายอ่อนแอขึ้นทุกวันๆ  งานที่ใต้เท้าถังต้องสะสางก็เยอะมากพอแล้ว ยังต้องแบ่งแยกสมองมาขับเคี่ยวกับคนเหล่านี้อีก
แต่นี่คือแนวรบแห่งสุดท้ายที่เขาต้องเข้าร่วม ทั้งหมดทั้งมวลมิใช่เพื่ออนาคตตน
ทว่าเพื่ออนาคตของแผ่นดินต้าหมิงในรัชศกใหม่!!



--------------------- 


รัชศกเฉิงฮว่า ปีที่สิบสี่ เล่ม 6

'เดิมทีถังฟั่นมาซูโจวด้วยต้องมาแก้ไขกรณีขุนนางสามฝ่ายมีข้อพิพาทกัน
เพราะต่างคนต่างเขียนฎีกาโยนความผิดกันไปมา
ว่าเหตุใดเสบียงที่แจกจ่ายราษฎรผู้ประสบภัยอดอยากจึงไม่เพียงพอ
แต่กลับกลายเป็นยิ่งขุดยิ่งพบความเน่าเหม็นบัดซบของคน
ทำให้ถังฟั่นผู้ซึ่งสุภาพอ่อนโยนเสมอมาถึงครา โกรธจริงๆ แล้ว
คดีนี้มีคนใหญ่คนโตมากมายอยู่เบื้องหลัง โดยเฉพาะกลุ่มอำนาจวั่นและสำนักบูรพา
หากถังฟั่นก็ปะทะกับพวกเขาบ่อยเสียจนเรียกได้ว่า สนิทชิดเชื้อ
ส่วนตำแหน่งขุนนางของเขาก็เดี๋ยวแต่งตั้งเดี๋ยวถอดถอนจน ชินไปนานแล้วเช่นกัน
ถังฟั่นจึงยอมหักไม่ยอมงอ เปิดโปงความจริงอย่างคนไม่มีอะไรจะเสียอีกครั้ง!





---------------------


 รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ เล่ม 5

'ชายแดนต้าถงเป็นพื้นที่อ่อนไหวมาตลอด แต่นับจากวังจื๋อไปเป็นเสนาธิการ ทัพต้าหมิง ก็แทบไม่เคยปราชัยในศึกกับชนเผ่านอกด่านเลย  ทว่าไม่นานมานี้สภาพการณ์กลับผกผันตรงกันข้าม  เมื่อทุกครั้งที่ทัพต้าหมิงไล่กวดข้าศึกไปถึงบริเวณทะเลสาบ  ศัตรูควบคุมได้กระทั่งเมฆหมอกพายุฝนลมทราย  ยังก็มีอันต้องเผชิญกับ ปรากฏการณ์วิปริตผิดแผก จนสาบสูญทั้งกองทัพ!  ลือว่านี่เป็นเวทมนตร์ของ หลี่จื่อหลงหัวหน้าลัทธิบัวขาวผู้ซึ่งบัดนี้  มีศักดิ์เป็นถึงราชครูของพวกต๋าต๋า  กี่ครั้งกี่หนแล้วที่เหล่าทหารหาญไปแล้วไปลับ ขวัญกำลังใจกองทัพดิ่งต่ำถึงขีดสุด ได้ยินว่านักพรตมารผู้นั้นสามารถสั่งการภูตทหารจากเมืองผีให้ล้อมโจมตีได้อีก!
ด้วยเหตุนี้ ถังฟั่นซึ่งชื่อเสียงขจรขจายว่าเป็น เทพผู้ไขคดีจึงได้เดินทางมาถึงยังเมืองต้าถงแล้ว...!!




-------------------------------


รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ เล่ม 4

-ถังฟั่น มีชื่อรองว่า "รุ่นชิง" เวลานี้ถูกปลดออกจากตำแหน่งเป็นขุนนางก็แต่เพียงในนาม ทว่าตัวเขากลับไม่เดือดเนื้อ ร้อนใจ ยังคงสมถะเรียบง่าย พอใจในสิ่งที่ตนมี พิถีพิถันก็แค่กับเรื่องอาหารการกินเท่านั้น
-สุยโจว มีชื่อรองว่า "ก่วงชวน" องครักษ์เสื้อแพรแห่งกองปราบฝ่ายเหนือ เงียบขรึมพูดน้อย ไม่ค่อยแสดงอารมณ์พื้นฐานครอบครัวไม่ธรรมดา มีความสัมพันธ์ทางเครือญาติกับพระพันปีองค์ปัจจุบัน
-ถังอวี๋ พี่สาวของถังฟั่น แต่งกับเฮ่อหลินซึ่งเป็นบุตรคนรองของเฮ่ออิง ทั้งคู่มีบุตรด้วยกันหนึ่งคน ชื่อเฮ่อเฉิง ถังฟั่น เรียกหาว่า "เจ้าเจ็ด"
-เฮ่ออิง ท่านผู้เฒ่าสกุลเฮ่อ ผู้นำตระกูลขุนนางท้องถิ่น ในอดีตเคยเป็นถึงขุนนางขั้นสาม และเป็นสหายสนิทของบิดาถังฟั่นกับถังอวี๋ จึงหมั้นหมายให้ทายาทของสองตระกูลแต่งงานเกี่ยวดองเป็นญาติ

'อันที่จริงการไม่ต้องทำหน้าที่ขุนนางแล้วก็มีข้อดีมากมาย หนึ่งในนั้นคือมีอิสรเสรี อยากทำอะไรก็ทำ อยากไปที่ใดก็ไป ด้วยเหตุนี้ถังฟั่นจึงถือโอกาสว่างเว้นจากหน้าที่อย่างไม่มีกำหนดเดินทางไปเยี่ยมพี่สาวกับหลานชายที่ออกเรือนไปอยู่ต่างเมืองเพียงเพื่อที่จะพบว่าพวกนางแม่ลูกหาได้มีชีวิตที่อบอุ่นอภิรมย์ ที่แท้หลังถังอวี๋แต่งเข้าสกุลเฮ่อต้องเจอกับเรื่องอะไรบ้างกัน ถังฟั่นซึ่งบัดนี้ไม่มีอำนาจแล้วจะช่วยเหลือนางได้กี่มากน้อยทว่า... เรื่องในบ้านสกุลเฮ่อยังหาทางออกที่เหมาะสมไม่ได้พวกเขาก็ต้องเข้าไปพัวพันกับคดีฆ่าคนตายในคฤหาสน์คหบดีประจำอำเภอเมื่อผู้ต้องสงสัยว่าสังหารบุตรีคนเล็กของคหบดีผู้นั้นคือหลานชายวัยเพียงเจ็ดขวบของถังฟั่น!




--------------------


รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ เล่ม 3

'เพราะผลงานไขคดีที่อยู่ใต้พระเนตรพระกรรณองค์จักรพรรดิ ทำให้ในที่สุดถังฟั่นก็ได้เลื่อนขั้น ย้ายเข้ากรมอาญาไปเป็นหัวหน้ากองพลาธิการ แต่การมารับตำแหน่งนี้ของเขาออกจะลัดขั้นตอนและกะทันหันไปสักหน่อย

จึงไปขัดหูขัดตาขัดแข้งขัดขาหลายคนในกรมอาญาเข้า เฮ้อ! ใช่ว่าเขาเลือกอะไรได้เสียที่ไหน ที่เลือกได้คือยืนหยัดในอุดมการณ์ของตนต่อไปนั่นล่ะ! แต่แล้วจุดเปลี่ยนในชีวิตการเป็นขุนนางของเขาก็มาถึงเกิดคดีแปลกประหลาดและแสนจะสะเทือนขวัญขึ้นในพื้นที่การดูแลของถังฟั่น ณ ที่ตั้งสุสานอดีตจักรพรรดิมีชาวบ้านสูญหายปริศนาสิบกว่าชีวิตยังมีเสียงร้องไห้โหยหวนที่ไม่รู้ต้นตอ เรื่องทั้งหมดนี้เป็นฝีมือโจรขุดสุสานหรือเป็นอาถรรพ์ของ เทพแม่น้ำตามความเชื่อของชาวบ้านกันแน่ถังฟั่นพร้อมด้วยสุยโจวสหายสนิท กำลังจะเดินทางไปไขปริศนาสุสานอดีตจักรพรรดิแล้ว!





--------------------- 


รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ เล่ม 2

'พระสหายร่วมเรียนขององค์รัชทายาทเสียชีวิตอย่างเป็นปริศนา!!
เหตุการณ์เกิดในวัง... ภายหลังกินของหวานที่ส่งมาโดยวั่นกุ้ยเฟย...
และเป็นที่รู้กันทั่วว่าวั่นกุ้ยเฟยร้ายกาจต่อหน่อเนื้อเชื้อไขของจักรพรรดิเพียงใด
ถังฟั่นถูกวังจื๋อลากตัวมารับเผือกร้อนนี้ด้วยกัน
เงื่อนไขคือต้องคลี่คลายคดีนี้ซึ่งเป็นพระบัญชาโดยตรงจากองค์เหนือหัว
ขณะเดียวกันก็ต้องไม่ให้พัวพันมาถึงวั่นกุ้ยเฟยด้วย
คนนั้นก็ห้ามทำให้ไม่พอใจ คนนี้ก็ห้ามล่วงเกิน
แล้วผู้พิพากษาตัวเล็กๆ อย่างถังฟั่นจะเอาอย่างไรดีล่ะเนี่ย ยังมี... ท่านผู้บัญชาการสำนักประจิมวังจื๋อ ตลอดช่วงเวลานี้ออกจะอยู่ใกล้ชิดและให้ความสนิทชิดเชื้อกันเกินไปหรือไม่
บอกตามตรงว่าเขารู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ และไม่สบายกายสบายใจเอาเสียเลย!!




---------------

รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ เล่ม 1

รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่แห่งต้าหมิง สภาขุนนางเรืองรุ่ง ใครต่อใครก็อยากเข้าเมืองหลวงเพื่อสอบเป็นขุนนาง

ถังฟั่นผู้พิพากษาแห่งศาลซุ่นเทียน ขุนนางขั้นเล็กๆ รับผิดชอบดูแลคดีชาวบ้านๆ งานในหน้าที่ตรงกันข้ามกับมันสมอง อันที่จริงถังฟั่นจะไต่เต้าเป็นขุนนางขั้นสูงกว่านี้ใช่ว่าไม่มีหนทาง แต่ใครใช้ให้เขารักสบาย ง่ายๆ ไว้เป็นดีเล่า ด้วยเหตุนี้ในศาลซุ่นเทียนจึงมีขุนนางเล็กๆ แต่ฉลาดเฉลียวอยู่หนึ่งคน ทว่าผู้พิพากษาก็มีอันต้องตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆ่าคนตายเสียเอง เมื่อเขาดันเป็นคนสุดท้ายที่ปะทะกับคุณชายใหญ่แห่งจวนอู่อันโหวก่อนคุณชายผู้นี้จะถูกพบเป็นศพ! คดีพัวพันผู้มีอำนาจ ไม่ใช่ทางของถังฟั่นเอาเสียเลย แต่ความยุติธรรมในหัวใจทำให้ผู้พิพากษารูปงามต้องหาคนร้ายตัวจริงออกมา ล้างมลทินให้สาวใช้ผู้บริสุทธิ์ สุยโจวนายกองปากหนักประจำสำนักองครักษ์เสื้อแพร หนึ่งในขั้วอำนาจหลักแห่งราชสำนักต้าหมิง กำลังจับตามองการทำงานของถังฟั่นอย่าง ใกล้ชิดขอดูซิว่าอีกฝ่ายจะเป็นขุนนางน้ำดีมีอุดมการณ์ดังเช่นที่เจ้าตัวเอ่ยอ้างจริงหรือไม่!