นิยายรัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่
7 เล่ม จบ
ผู้เขียน เมิ่งซีสือ
ร้านนายอินทร์ออนไลน์จัดจำหน่าย
www.naiin.com
รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่
เล่ม 7 - เล่มจบ
'ลัทธิบัวขาวถูกขุดรากถอนโคน
กล่าวได้ว่าเก้าในสิบส่วนเป็นผลงานของถังฟั่น
เขาจะเติบโตในหน้าที่การงาน
ขั้นตำแหน่งเลื่อนขึ้นพรวดพราดก็หาใช่เรื่องน่าแปลกใจ
บัดนี้ถังฟั่น
ถังรุ่นชิง ก็ได้กลายเป็น ‘ถังเก๋อเหล่า’ มหาเสนาบดีแห่งสภาขุนนางแล้ว!ช่วงเวลานี้บ้านเมืองนับว่าสงบสุข
หากไม่ใช่กับในราชสำนักและวังหลวง กลุ่มอำนาจวั่นยังคงไม่วางมือจากภารกิจเปลี่ยนตัวรัชทายาท ทั้งยิ่งต้องเร่งรัดลงมือ เพราะองค์จักรพรรดิพระวรกายอ่อนแอขึ้นทุกวันๆ งานที่ใต้เท้าถังต้องสะสางก็เยอะมากพอแล้ว
ยังต้องแบ่งแยกสมองมาขับเคี่ยวกับคนเหล่านี้อีก
แต่นี่คือแนวรบแห่งสุดท้ายที่เขาต้องเข้าร่วม
ทั้งหมดทั้งมวลมิใช่เพื่ออนาคตตน
ทว่าเพื่ออนาคตของแผ่นดินต้าหมิงในรัชศกใหม่!!
---------------------
รัชศกเฉิงฮว่า
ปีที่สิบสี่ เล่ม 6
'เดิมทีถังฟั่นมาซูโจวด้วยต้องมาแก้ไขกรณีขุนนางสามฝ่ายมีข้อพิพาทกัน
เพราะต่างคนต่างเขียนฎีกาโยนความผิดกันไปมา
ว่าเหตุใดเสบียงที่แจกจ่ายราษฎรผู้ประสบภัยอดอยากจึงไม่เพียงพอ
แต่กลับกลายเป็นยิ่งขุดยิ่งพบความเน่าเหม็นบัดซบของคน
ทำให้ถังฟั่นผู้ซึ่งสุภาพอ่อนโยนเสมอมาถึงครา
‘โกรธ’ จริงๆ แล้ว
คดีนี้มีคนใหญ่คนโตมากมายอยู่เบื้องหลัง
โดยเฉพาะกลุ่มอำนาจวั่นและสำนักบูรพา
หากถังฟั่นก็ปะทะกับพวกเขาบ่อยเสียจนเรียกได้ว่า
‘สนิทชิดเชื้อ’
ส่วนตำแหน่งขุนนางของเขาก็เดี๋ยวแต่งตั้งเดี๋ยวถอดถอนจน
‘ชิน’ ไปนานแล้วเช่นกัน
ถังฟั่นจึงยอมหักไม่ยอมงอ
เปิดโปงความจริงอย่างคนไม่มีอะไรจะเสียอีกครั้ง!
---------------------
รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่
เล่ม 5
'ชายแดนต้าถงเป็นพื้นที่อ่อนไหวมาตลอด
แต่นับจากวังจื๋อไปเป็นเสนาธิการ ทัพต้าหมิง ก็แทบไม่เคยปราชัยในศึกกับชนเผ่านอกด่านเลย ทว่าไม่นานมานี้สภาพการณ์กลับผกผันตรงกันข้าม เมื่อทุกครั้งที่ทัพต้าหมิงไล่กวดข้าศึกไปถึงบริเวณทะเลสาบ ศัตรูควบคุมได้กระทั่งเมฆหมอกพายุฝนลมทราย ยังก็มีอันต้องเผชิญกับ ปรากฏการณ์วิปริตผิดแผก
จนสาบสูญทั้งกองทัพ! ลือว่านี่เป็นเวทมนตร์ของ
‘หลี่จื่อหลง’ หัวหน้าลัทธิบัวขาวผู้ซึ่งบัดนี้ มีศักดิ์เป็นถึงราชครูของพวกต๋าต๋า กี่ครั้งกี่หนแล้วที่เหล่าทหารหาญไปแล้วไปลับ
ขวัญกำลังใจกองทัพดิ่งต่ำถึงขีดสุด ได้ยินว่านักพรตมารผู้นั้นสามารถสั่งการภูตทหารจากเมืองผีให้ล้อมโจมตีได้อีก!
ด้วยเหตุนี้
ถังฟั่นซึ่งชื่อเสียงขจรขจายว่าเป็น ‘เทพผู้ไขคดี’ จึงได้เดินทางมาถึงยังเมืองต้าถงแล้ว...!!
-------------------------------
รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่
เล่ม 4
-ถังฟั่น
มีชื่อรองว่า "รุ่นชิง"
เวลานี้ถูกปลดออกจากตำแหน่งเป็นขุนนางก็แต่เพียงในนาม ทว่าตัวเขากลับไม่เดือดเนื้อ
ร้อนใจ ยังคงสมถะเรียบง่าย พอใจในสิ่งที่ตนมี พิถีพิถันก็แค่กับเรื่องอาหารการกินเท่านั้น
-สุยโจว
มีชื่อรองว่า "ก่วงชวน" องครักษ์เสื้อแพรแห่งกองปราบฝ่ายเหนือ
เงียบขรึมพูดน้อย ไม่ค่อยแสดงอารมณ์พื้นฐานครอบครัวไม่ธรรมดา
มีความสัมพันธ์ทางเครือญาติกับพระพันปีองค์ปัจจุบัน
-ถังอวี๋
พี่สาวของถังฟั่น แต่งกับเฮ่อหลินซึ่งเป็นบุตรคนรองของเฮ่ออิง
ทั้งคู่มีบุตรด้วยกันหนึ่งคน ชื่อเฮ่อเฉิง ถังฟั่น เรียกหาว่า
"เจ้าเจ็ด"
-เฮ่ออิง
ท่านผู้เฒ่าสกุลเฮ่อ ผู้นำตระกูลขุนนางท้องถิ่น ในอดีตเคยเป็นถึงขุนนางขั้นสาม
และเป็นสหายสนิทของบิดาถังฟั่นกับถังอวี๋
จึงหมั้นหมายให้ทายาทของสองตระกูลแต่งงานเกี่ยวดองเป็นญาติ
'อันที่จริงการไม่ต้องทำหน้าที่ขุนนางแล้วก็มีข้อดีมากมาย
หนึ่งในนั้นคือมีอิสรเสรี อยากทำอะไรก็ทำ อยากไปที่ใดก็ไป
ด้วยเหตุนี้ถังฟั่นจึงถือโอกาสว่างเว้นจากหน้าที่อย่างไม่มีกำหนดเดินทางไปเยี่ยมพี่สาวกับหลานชายที่ออกเรือนไปอยู่ต่างเมืองเพียงเพื่อที่จะพบว่าพวกนางแม่ลูกหาได้มีชีวิตที่อบอุ่นอภิรมย์
ที่แท้หลังถังอวี๋แต่งเข้าสกุลเฮ่อต้องเจอกับเรื่องอะไรบ้างกัน
ถังฟั่นซึ่งบัดนี้ไม่มีอำนาจแล้วจะช่วยเหลือนางได้กี่มากน้อยทว่า...
เรื่องในบ้านสกุลเฮ่อยังหาทางออกที่เหมาะสมไม่ได้พวกเขาก็ต้องเข้าไปพัวพันกับคดีฆ่าคนตายในคฤหาสน์คหบดีประจำอำเภอเมื่อผู้ต้องสงสัยว่าสังหารบุตรีคนเล็กของคหบดีผู้นั้นคือหลานชายวัยเพียงเจ็ดขวบของถังฟั่น!
--------------------
รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่
เล่ม 3
'เพราะผลงานไขคดีที่อยู่ใต้พระเนตรพระกรรณองค์จักรพรรดิ
ทำให้ในที่สุดถังฟั่นก็ได้เลื่อนขั้น ย้ายเข้ากรมอาญาไปเป็นหัวหน้ากองพลาธิการ
แต่การมารับตำแหน่งนี้ของเขาออกจะลัดขั้นตอนและกะทันหันไปสักหน่อย
จึงไปขัดหูขัดตาขัดแข้งขัดขาหลายคนในกรมอาญาเข้า
เฮ้อ! ใช่ว่าเขาเลือกอะไรได้เสียที่ไหน
ที่เลือกได้คือยืนหยัดในอุดมการณ์ของตนต่อไปนั่นล่ะ!
แต่แล้วจุดเปลี่ยนในชีวิตการเป็นขุนนางของเขาก็มาถึง… เกิดคดีแปลกประหลาดและแสนจะสะเทือนขวัญขึ้นในพื้นที่การดูแลของถังฟั่น
ณ
ที่ตั้งสุสานอดีตจักรพรรดิมีชาวบ้านสูญหายปริศนาสิบกว่าชีวิตยังมีเสียงร้องไห้โหยหวนที่ไม่รู้ต้นตอ
เรื่องทั้งหมดนี้เป็นฝีมือโจรขุดสุสานหรือเป็นอาถรรพ์ของ ‘เทพแม่น้ำ’ ตามความเชื่อของชาวบ้านกันแน่ถังฟั่นพร้อมด้วยสุยโจวสหายสนิท
กำลังจะเดินทางไปไขปริศนาสุสานอดีตจักรพรรดิแล้ว!
---------------------
รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่
เล่ม 2
'พระสหายร่วมเรียนขององค์รัชทายาทเสียชีวิตอย่างเป็นปริศนา!!
เหตุการณ์เกิดในวัง...
ภายหลังกินของหวานที่ส่งมาโดยวั่นกุ้ยเฟย...
และเป็นที่รู้กันทั่วว่าวั่นกุ้ยเฟยร้ายกาจต่อหน่อเนื้อเชื้อไขของจักรพรรดิเพียงใด
ถังฟั่นถูกวังจื๋อลากตัวมารับเผือกร้อนนี้ด้วยกัน
เงื่อนไขคือต้องคลี่คลายคดีนี้ซึ่งเป็นพระบัญชาโดยตรงจากองค์เหนือหัว
ขณะเดียวกันก็ต้องไม่ให้พัวพันมาถึงวั่นกุ้ยเฟยด้วย
คนนั้นก็ห้ามทำให้ไม่พอใจ
คนนี้ก็ห้ามล่วงเกิน
แล้วผู้พิพากษาตัวเล็กๆ
อย่างถังฟั่นจะเอาอย่างไรดีล่ะเนี่ย ยังมี...
ท่านผู้บัญชาการสำนักประจิมวังจื๋อ ตลอดช่วงเวลานี้ออกจะอยู่ใกล้ชิดและให้ความสนิทชิดเชื้อกันเกินไปหรือไม่
บอกตามตรงว่าเขารู้สึกหนาวๆ
ร้อนๆ และไม่สบายกายสบายใจเอาเสียเลย!!
---------------
รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่
เล่ม 1
รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่แห่งต้าหมิง
สภาขุนนางเรืองรุ่ง ใครต่อใครก็อยากเข้าเมืองหลวงเพื่อสอบเป็นขุนนาง
‘ถังฟั่น’ ผู้พิพากษาแห่งศาลซุ่นเทียน
ขุนนางขั้นเล็กๆ รับผิดชอบดูแลคดีชาวบ้านๆ งานในหน้าที่ตรงกันข้ามกับมันสมอง
อันที่จริงถังฟั่นจะไต่เต้าเป็นขุนนางขั้นสูงกว่านี้ใช่ว่าไม่มีหนทาง
แต่ใครใช้ให้เขารักสบาย ง่ายๆ ไว้เป็นดีเล่า ด้วยเหตุนี้ในศาลซุ่นเทียนจึงมีขุนนางเล็กๆ
แต่ฉลาดเฉลียวอยู่หนึ่งคน
ทว่าผู้พิพากษาก็มีอันต้องตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆ่าคนตายเสียเอง
เมื่อเขาดันเป็นคนสุดท้ายที่ปะทะกับคุณชายใหญ่แห่งจวนอู่อันโหวก่อนคุณชายผู้นี้จะถูกพบเป็นศพ!
คดีพัวพันผู้มีอำนาจ ไม่ใช่ทางของถังฟั่นเอาเสียเลย แต่ความยุติธรรมในหัวใจทำให้ผู้พิพากษารูปงามต้องหาคนร้ายตัวจริงออกมา
ล้างมลทินให้สาวใช้ผู้บริสุทธิ์ ‘สุยโจว’ นายกองปากหนักประจำสำนักองครักษ์เสื้อแพร
หนึ่งในขั้วอำนาจหลักแห่งราชสำนักต้าหมิง กำลังจับตามองการทำงานของถังฟั่นอย่าง ‘ใกล้ชิด’ ขอดูซิว่าอีกฝ่ายจะเป็นขุนนางน้ำดีมีอุดมการณ์ดังเช่นที่เจ้าตัวเอ่ยอ้างจริงหรือไม่!